Sunday, August 24, 2008

ตอนที่ 6

ขอท่านผู้มีอุปการะคุณ ช่วยตรวจสอบตัวสะกด และความถูกต้องของเนื้อหาด้วยนะครับ
จะเอ็มมาก็ได้ เม้นต์มาก็ได้ ไม่ว่ากัน

วันนี้เลือกเพลงเข้ากับเนื้อหาไม่ถูก ใครชอบแนวไหนก็กดเอาเองตามใจชอบเลยนะครับ

เชพปะ - อาภาพร

Paris Hilton - Turn It Up - Paris Hilton

พรานล่อเนื้อ - สุเมธ & เดอะปั๊ง

ใกล้เปิดเรียนแล้ว เฮ่ออออออ
คิดแล้วใจ โรคหัวใจกำเริบ เลิฟๆ
คงไม่มีเวลามาได้นั่งเขียนอยู่บ่อยๆแบบนี้แน่
แต่ก็ไม่อยากจะทิ้งแฟนๆไป
ยังไงก็ช่วยมาดันกันบ้างนะครับ
เผื่อจะมีแรงฮึดสู้ อยากเขียนขึ้นมา

เริ่มเลยละกัน ช่วงนี้ยิ่งเป็นควันหลงจากโอลิมปิกซะด้วย
มาคุยถึงเรื่องกีฬากันหน่อยดีกว่าวันนี้

คนอเมริกันเค้าให้ความสำคัญกับกีฬามากๆ เลยครับ (ถึงจะมีคนอ้วนจะระเบิด อยู่ไม่น้อยก็เหอะ)
Prep school เค้าจะให้นักเรียนเรียนประมาณครึ่งวัน
แล้วช่วงเย็น จะเป็นเวลาให้นักกีฬาซ้อมกีฬา
เด็กคนไหนเล่นกีฬาเก่งมากๆ ก็มีสิทธิเข้ามหาวิทยาลัยดีๆได้เลยทีเดียว (เชื่อรึยัง ว่าเค้าให้ความสำคัญไม่น้อยทีเดียว)
แล้วพวกนักกีฬาพวกนี้ มักจะมีรูปร่างสูงยาว เข่าดี ฟิต แล้วก็จะสนทนาปาร์ตี้แนวเดียวๆกัน
และ คนจะคิดว่าพวกนี้สมองกลวง คนจะเรียกนักกีฬาแบบนี้ว่า Jock
แต่ก็ไม่ใช่ว่า นักกีฬาทุกคน จะล่ำบึ๊กสมองกลวงนะครับ เพื่อนผมที่เป็น jock เก่งๆก็มี
การที่คนเหมารวมโดยยึดถือลักษณะเด่น ที่มักพบได้ทั่วไป ลักษณะนั้นๆ เรียกว่า stereotype
เช่น stereotype ของเด็กเอเชี่ยน จะชอบเล่นเกมส์ ขลุกแต่กับเอเชี่ยนด้วยกัน แอบขี้โกง แต่ไม่เรื่องมาก
(เรื่องนี้มีเม้าท์กันยาวแน่ ฝากไว้ก่อน)
sterotype ของเด็ก prep school ส่วนใหญ่จะบ้านรวย พ่อแม่มารับกลับบ้านเกือบทุกอาทิย์ด้วยรถคันหรู
มีตังส์ไปเที่ยวโน่นเที่ยวนี่ทุกเบรค แต่งตัวดี
พอจะเห็นภาพคำว่า stereotype กันบ้างแล้วนะครับ

คนอเมริกันจะใส่ใจเรื่องหุ่นตัวเองมาก
(เอาไว่ล่อ เพศตรงกันข้าม ว่างั้น... เฮ้ย ไม่ใช่สิ เอาไว้ล่อเพศอยากได้ จะถูกกว่า)
ผู้ชายจึงมักจะเข้ายิม(มันคือฟิเนสนั่นแหละ แต่คนที่นี่เค้าเรียกยิมกัน)
เพื่อเพาะกายให้ดูมีกล้าม มีหน้าอก ให้สาวๆ (หรือ หนุ่มๆ) ซบ
ฝรั่งตัวผู้ส่วนใหญ่เค้าจะดูมีเนื้อมีหนัง มีกล้ามพอประมาณ แล้วแต่เจ้าตัวจะต้องการมากน้อยแค่ไหน
ชายอกสองศอก ที่ผอมแห้งกล้ามเนื้อน้อยกว่ามาตรฐาน คนมักจะคิดว่า เป็นเจ๊ (ไม่ใช่ผู้ชาย)
ก็พันธุ์ฝรั่งมันเป็นแบบนี้อะ ออกกำลังกายนิดหน่อยก็บึกๆเเล้ว
เอเชี่ยนหัวดำอย่างเราก็พยายามก็เยอะหน่อย ถึงจะมีหุ่นแบบเขาๆ
ซัมเมอร์นี้ไม่มีอะไรทำก็ไปยิมเกือบทุกวันเลย ส่วนใหญ่จะไปวิ่งก่อน
วิ่งเหนื่อยๆแล้วถึงไปใช้เครื่งออกกำลังกายเฉพาะส่วน
เพื่อความ เซ็กซี่ ฮาๆ
หรือเผื่อเอาไว้ล่อใคร

ไหนๆก็ไหนๆแล้ว ขอนอกเรื่องนิดนึง
วันก่อนไม่มีอะไรทำ เลยแก้ผ้าเดินรอบห้อง (โรคจิตป่าววะ)
แล้วก็ส่องกระจกดู แขนเริ่มย้วนๆ รู้สึกว่ามีพุงเล็กน้อยถึงปานกลาง
เลยคิดจะกำจัดเนื้อร้ายนั่นเสีย แล้วก็หวัง six packs ไว้แน่ะ กะจะไปแข่งกะอ๊อฟ (หนุ่ม almost perfect)
ก็ไปวิ่งๆๆๆๆ ตีเทนนิส เข้ายิม ซิทอั๊พ วิดพื้น ประสบสำเร็จอย่างล้นหลาม
เหลือนางมารร้ายอยู่ก้อนนึง ที่ยังคงล้นหลามอยู่ คือ... พุง
เลยหาหนังสือมาอ่าน เค้าบอกว่า ลดไขมัน สร้างกล้ามที่แขน ขา หรือส่วนอื่นน่ะ ไม่ยากเท่าไหร่
แต่พุงน่ะ เป็นที่สุดท้ายที่ไขมันมันจะหมดไป คือต้องออกกำลังกายอย่างเอาจริง จริงๆ (จริง สามตัวเลยแฮะ)
แล้ว six packs ก็เป็นสิ่งที่กำหนดจากพันธุกรรม
รวมทั้งลักษณะผอมแห้ง หรือเนื้อเยอะ ก็ถูกกำหนดทางพันธุกรรมด้วย
เลยต้องขอกำลังใจกันหน่อย เลยไปถามพี่ซึ่งเป็นหมอ ให้ไปเช็คประวัติระเบียนสรีระวงศาคณาญาติให้หน่อย

จอม : แก ญาติๆผู้ชายของพวกเรา ตอนวัยรุ่นหุ่นเค้าเป็นไงบ้างอะ มี six packs กันบ้างป่าว
จอย: ลุงๆอาๆแก ก็ผอมแห้งกันหมดทุกคนนะ เหมือนแกไง แล้วพอตอนแก่ๆ ก็ลงพุงกันหมดทุกคน
จอม: แป่ว *_*

เอาวะ ไม่เห็นรอยขีดทั้งหก ก็ไม่เป็นไร เอาให้ไม่มีพุงก็พอ
แต่มันก็ยังแอบบมีอยู่นะ เมื่อขาดสติ
คือต้องเกร็งท้องอยู่ตลอดเวลาที่รู้สึก ห้ามลืมเด็ดขาด

เอ้า นอกเรื่องไปเยอะอีกละ...
ส่วนคุณสุภาพสตรี เล่นเครื่องบึกๆถึกๆมากก็ไม่ได้
เดี่ยวไหล่หนากล้ามใหญ่ คุณผู้ชายจะกลัว ไม่กล้าปกป้องเอา
เค้าก็เลยออกกำลังกายแบบแอโรบิกซะส่วนใหญ่ เผาผลาญไขมัน
เครื่องออกกำลังกายพวกนั้นก็เช่น เครื่องวิ่งอยู่กับที่ เครื่องปั่นจักยานอยู่กับที่ มีทั้งแบบนั่งและแบบยืน

ยิมส่วนใหญ่เค้าจะแบ่งเป็นสองโซนครับ
คือพวกเครื่องกล้ามทั้งหลาย และเครื่องแอโรบิก
แล้วผู้ชายมักจะไปขลุกๆกันโซนแรก สาวๆก็มาวิ่งมาปั่นกันโซนสอง
บางฤดูกาลผมก็จะไปอยู่ทั้งสองโซน
เอ๊ะ เปลี่ยนเพศตามฤดูกาลเหรอ
ไม่ใช่.... ส่วนใหญ่จะให้ความสำคัญกับการออกกำลังกายแบบแอโรบิก ซึ่งบริหารหัวใจ การไหลเวียน และทุกๆส่วนก่อน
ก็เรื่องหัวใจสำคัญที่สุดหนิ (เสี่ยวเชียว)
อายแค่ไหนก็ยอม
แล้วช่วงฤดูหนาวก็ไปวิ่งร่อนข้างนอกไม่ได้ เดี๋ยวหกล้มหัวฟาดหิมะเอา

กลับไปพูดถึงเรื่อง Brewster ดีกว่า เดี๋ยวจะนอกประเด็นไปซะก่อน
ช่วงบ่ายสาม พวกเราก็จะต้องไปเจอกันที่สนาม แล้วโค้ชก็จะทำการ warm up
ให้พวกเราทำท่าต่างๆกัน เพื่อลดการบาดเจ็บทางการกีฬา
แล้วแต่ละวัน ก็จะเล่นกีฬาแตกต่างกันไป
บาสเก็ตบอล วอลเล่ย์บอล เบสบอล ว่ายน้ำ ฟริสบี้ soccer อเมริกันฟุตบอล และอีกหลายอย่าง
คนแก่จำไม่ค่อยได้ละ มีการพาวิ่งรอบเมืองด้วย
อันไหนที่เด็กไทยเล่นไม่เป็น เค้าก็จะจัดการสอนให้ แล้วก็เล่นไปสอนไป จนกว่าจะเป็น

ถ้าพูดว่า football ในดินแดนนี้ มันจะเป็นคนล่ะอย่างกันกับ "เล่นบอล" ในบ้านเราครับ
อ้าวแล้ว football มันคืออะไรล่ะ?
หลายๆคน คงเคยดูหนังเกี่ยวกับไฮสคูลของอเมริกานะครับ
เค้าจะมีกีฬาอย่างนึง นักกีฬาจะดูคล้ายๆว่าใส่ชุดเกราะ แล้วก็มีหมวกเป็นตะแกรงครอบหัวไว้
ลูกที่เล่นเหมือนกับลูกที่เค้าเล่นรักบี้ แล้ววิ่งกระแทกกันเถื่อนๆ
อันนั้นล่ะครับ ที่เค้าเรียกว่า American Football หรือ Football
อ้าว แล้ว "เตะบอล" ล่ะ เค้าเรียกว่าอะไร
เค้าเรียกว่า soccer ครับ
จริงๆแล้วบ้านเมืองเราไม่ได้แปลกนะครับ ที่เรียกเตะบอลว่า Football
คนเมกันมันแปลกเอง เค้าจะเซลฟ์ๆกันอย่างนี้แหละ
เลยไม่ยอมปรับเรียกให้เหมือนชาวบ้านซักที
เอาหน่า... เข้าเมืองตาหลิ่ว ต้องหลิ่วตาตาม
ใครจะคุยโวเรื่องบอลๆกับคนเมกัน ก็อย่าลืมว่าเรียกว่า soccer นะครับ

อ้าว นอกเรื่องไปไหนอีกละ...กลับมาดีกว่า
โค้ชเค้าจะแบ่งทีม ให้คละชายหญิงกัน
ไม่ต้องงงครับ
ที่นี่เค้ามีหลักว่า ชายหญิงมีความสามารถเท่าเทียมกัน แม้ว่าจะเป็นเรื่องกีฬา
ผู้ชายทำได้ ผู้หญิงก็ทำได้
จำนวนเด็กผู้หญิงอเมริกันที่เล่นบอลมีพอๆกับผู้ชายที่เล่นเป็นเลยครับ
(ไม่เหมือนที่ไทยที่มีความคิดว่า ชายแท้ต้องเล่นบอลเป็น หญิงแท้ต้องเล่นบอลไม่เป็น)

เค้าก็เลยให้เล่นๆ รวมๆกัน ให้ทุกคนมีบทบาท เป็นแบบนี้ทุกวัน
มีอยู่วันนึง เค้าให้เล่นอะไรก็มิรู้ จำบ่ได้แล้ว
แต่ประมาณว่า สองทีมจะยืนเรียงหน้ากระดานหันเข้าหากัน
แล้วทีมนึงก็จะโยนลูกบอลไปยังทีมตรงกันข้ามอย่างแรง เพื่อให้มิสามารถรับได้ คนเค้าจะได้ออก อะไรประมาณนั้น
แล้วปรากฏว่า บางทีลูกบอลนั้นมักจะไปโนตรงที่ เอวยี่สิบหก อกสามสิบห้า ของคุณผู้หญิงบ้าง เป็นครั้งคราว

แล้วอยู่ดีๆก็มีสุภาพบุรุษคนนึง (แต่มีผู้มองโลกในแง่ร้ายรายงานข่าวว่า...ทำเพื่อโชว์สาว)
บอกประมาณว่า ให้แบ่งทีมใหม่ โยนมาหาผู้ชายแทน เพราะเดี๋ยวผู้หญิงเจ็บ หรืออะไรซักอย่างไม่รู้
แล้วทีเอฝรั่งซึ่งเป็นผู้หญิงก็โกรธมาก หาว่า sexism คือ แบ่งแยกทางเพศ
แล้วก็มีเรื่องกันวุ่นวายมาก คือ ฝ่ายชายไทยอกสามศอกก็พยายามอธิบาย ด้วยภาษาไทย snakeๆ fishๆ ถึงวัฒนธรรมไทย
ฝ่ายทีเอสาวก็ไม่ยอมท่าเดียว บอกว่า ผู้ชายทำได้ ผู้หญิงก็ทำได้ แล้วก็ชักจูงให้หญิงไทยใจงามเข้าพวกด้วย
เถียงกันอยู่นาน
พวกไม่รู้อีโหน่อีเหน่ก็ยืนคอยกันกลางแดดอยู่ชั่วโมงนึง จนเรื่องยุติลง
อันแน่ ...อยากรู้ล่ะสิว่าลงเอยยังไง ติดตามตอนต่อไปนะครับ

6 comments:

Anonymous said...

+_=

แวะมาให้กำลังใจเขียนต่อไปเด้อส์ ..

Anonymous said...

พรานล่อเนื้อ...เคยฟังครั้งเเรกในรายการTwilight Show ตอนคุณฮาร์ทมาร้อง ฟังครั้งที่สองตอนดูรายการประกวดร้องเพลง

เเละมาฟังครั้งที่สามที่นี่ละ

เหอๆๆ บางทีความเชื่ออะไรที่มันสุดโต่งก็ทำให้ชีวิตยุ่งยาก เช่นเรื่อง Racism, Sexism, -ism ทั้งหลาย พอTAยึดถือมันมากเกินไปเลยกลายเป็นเรื่องใหญ่ เอิ๊กๆๆ แต่ถ้าไม่มองเลยก็คงไม่ดีเนอะ

Unknown said...

พี่จอม แวะมาอ่านแล้วน้า
เพิ่งกลับมาจากค่ายสมาธิอ่ะ รู้สึกว่าพวกเราห่างไกลจากพุทธศาสนามากมาย

Anonymous said...

จอม มาเม้นแล้วนะ
เขียนต่อไวๆหละ อยากอ่านต่อๆๆๆ
เป็นกำลังให้ คอยติดตามผลงานของจอมอยู่นะ

Anonymous said...

ฮ่าๆๆๆ อยากบอกว่า ยินดีให้มี sexism อ่ะ เล่น dodgeballมั้ง กระเเทกเจ็บจะตาย

venustusa said...

แอบสังเกตว่า นางมารร้าย เป็นคำติดปากของจอมจริงๆ :p