... เมื่อสามปีที่แล้ว ก้าวแรกที่ได้เหยียบดินแดนเสรีภาพ
ภายใต้ชื่อว่า "นักเรียนทุนรัฐบาลไทย"
ผมคิดว่าหนทางข้างหน้าคงมีแต่กลีบกุหลาบโรยไว้
แต่สามปีที่ผ่านมานี้ ทำให้ผมรู้ว่า กลีบกุหลาบที่ดูสวยงามนั้น
โรยไว้บนรอยยิ้ม เสียงหัวเราะ มิตรภาพ หยาดเหงื่อ และหยดน้ำตา
ความสุขที่สุดอยู่ที่นี่ ความทุกข์ที่สุดก็อยู่ที่นี่
ทุกข์จนเคยคิดที่จะทิ้งความหวัง ความฝัน และทุกสิ่งทุกอย่างกลับบ้าน
หลายครั้งหลายครา
แต่บางที ก็ยังอดสงสัยไม่หาย ว่าผ่านเรื่องร้ายๆเหล่านั้นมาได้ยังไง ...
******************
ภายใต้ชื่อว่า "นักเรียนทุนรัฐบาลไทย"
ผมคิดว่าหนทางข้างหน้าคงมีแต่กลีบกุหลาบโรยไว้
แต่สามปีที่ผ่านมานี้ ทำให้ผมรู้ว่า กลีบกุหลาบที่ดูสวยงามนั้น
โรยไว้บนรอยยิ้ม เสียงหัวเราะ มิตรภาพ หยาดเหงื่อ และหยดน้ำตา
ความสุขที่สุดอยู่ที่นี่ ความทุกข์ที่สุดก็อยู่ที่นี่
ทุกข์จนเคยคิดที่จะทิ้งความหวัง ความฝัน และทุกสิ่งทุกอย่างกลับบ้าน
หลายครั้งหลายครา
แต่บางที ก็ยังอดสงสัยไม่หาย ว่าผ่านเรื่องร้ายๆเหล่านั้นมาได้ยังไง ...
******************
ขอประทานอภัยเป็นอย่างสูงนะครับ ที่ห่างหายไปนาน
พอดีกำลังวุ่นๆกับการเปิดบล็อกใหม่ในพันทิพย์น่ะครับ
ไปได้สวยเลย คนมาดูกันวันละสองร้อยแหนะ คอมเม้นต์ประมาณวันละสิบ
ไม่ได้ทอดทิ้งบล็อกนี้แต่อย่างใดนะครับ แค่แอบท้อนิดนึง
คือ เมื่อเดือนที่แล้ว คิดถึงเรื่องราวในอดีต (ตามประสาคนแก่)
เอาเข้าจริงแล้ว ชีวิตเราก็ผ่านอะไรมาเยอะเหมือนกัน
เคยทุกข์จนไม่รู้จะทุกข์ยังไงแล้ว กว่าจะมีความสุขอยู่อย่างวันนี้
ไม่รู้เคยเสียมากี่หยดน้ำตา ถึงได้มีรอยยิ้มในวันนี้
ชีวิตคนเรามีลงมีขึ้นเป็นธรรมดาครับ
แต่ขึ้นอยู่กับว่า เราจะรับมือกับมันได้มั้ย จัดการกับมันยังไง
เคยแอบคิดอยู่บ่อยๆนะครับว่า ถ้ามีคนมาบอกเราก่อน ชีวิตเราคงดีกว่านี้
ไม่ต้องล้มเอง เจ็บเอง ลุกเอง และก็มีแผลเป็น จนถึงทุกวันนี้
แต่ไม่เป็นไรหรอกครับ คนเราย้อนเวลากลับไปไม่ได้
ทำชีวิตวันน ี้ให้มีความสุขก็พอครับ
คนฉลาดเรียนรู้จากความผิดพลาดของตัวเอง
แต่คนฉลาดกว่าเรียนรู้จากความผิดพลาดของคนอื่น
แต่ขึ้นอยู่กับว่า เราจะรับมือกับมันได้มั้ย จัดการกับมันยังไง
เคยแอบคิดอยู่บ่อยๆนะครับว่า ถ้ามีคนมาบอกเราก่อน ชีวิตเราคงดีกว่านี้
ไม่ต้องล้มเอง เจ็บเอง ลุกเอง และก็มีแผลเป็น จนถึงทุกวันนี้
แต่ไม่เป็นไรหรอกครับ คนเราย้อนเวลากลับไปไม่ได้
ทำชีวิตวันน ี้ให้มีความสุขก็พอครับ
คนฉลาดเรียนรู้จากความผิดพลาดของตัวเอง
แต่คนฉลาดกว่าเรียนรู้จากความผิดพลาดของคนอื่น
ผมทำถูกบ้าง ผิดบ้างมาไม่รู้ต่อกี่ครั้งกี่คราแล้ว
ไม่อยากให้มันเสียปล่าวครับ
อยากให้คนอื่นรับรู้บ้าง จะได้รู้ว่าควร ไม่ควรทำอะไร ยังไง
ทั้งเจ็บ ทั้งทรมานมากจริงๆครับ ไม่ได้เว่อร์
ยังไม่เคยเล่าให้ใครฟังเลยครับ (แม้แต่คนที่เรารัก และรักเราที่สุด)
ตอนแรกคิดว่า จะไปฟื้นฝอยหาตะเข็บ นึกถึงความทุกข์ในอดีตทำไม
แต่มาคิดอีกที การจำได้ เรียนรู้ เข้าใจ กับการ จมปลัก มันต่างกันครับ
เนื่องจากความสุขมักจะผ่านไปเร็วกว่าความทุกข์นัก
ตอนแรกๆ จึงวางไว้ว่าจะเป็นตอนแห่งรอยยิ้ม และเสียงหัวเราะ
ก็ตอนนั้นมีความสุขจริงๆนี่หน่า
แล้วก็ผ่านไปเร็วจริงๆด้วย แค่สองเดือนเอง
และสี่เดือนนรกก็ผ่านมา
สี่เดือนเองครับ แต่รู้สึกเหมือนสี่ปี
รู้สึกนานกว่าที่มาอยู่มหาลัยซะอีก
แต่มันก็เป็นช่วงที่ทำให้เป็นผู้ใหญ่ขึ้นเยอะครับ
และได้มาหลายบทเรียน บทเรียนราคาแพงซะด้วย
(นี่ถ้าเอาไปขายได้ รวมๆแล้วคงได้หลายตังส์)
ตอนแรกๆ จึงวางไว้ว่าจะเป็นตอนแห่งรอยยิ้ม และเสียงหัวเราะ
ก็ตอนนั้นมีความสุขจริงๆนี่หน่า
แล้วก็ผ่านไปเร็วจริงๆด้วย แค่สองเดือนเอง
และสี่เดือนนรกก็ผ่านมา
สี่เดือนเองครับ แต่รู้สึกเหมือนสี่ปี
รู้สึกนานกว่าที่มาอยู่มหาลัยซะอีก
แต่มันก็เป็นช่วงที่ทำให้เป็นผู้ใหญ่ขึ้นเยอะครับ
และได้มาหลายบทเรียน บทเรียนราคาแพงซะด้วย
(นี่ถ้าเอาไปขายได้ รวมๆแล้วคงได้หลายตังส์)
มาดี หวังดีนะเนี่ย ไม่นึกมาก่อนเลยครับว่าจะไปก่อเรื่องจนได้
คือ มีบางคนเข้ามาถามว่า อะไร ทำทำไม ว่างมากนักเหรอ
หรือที่ยิ่งกว่านั้นคือ มีคนต่อว่า ว่าเขียนไม่สร้างสรรค์ นินทาว่าร้ายชาวบ้าน
ทำแบบนี้ ต่อๆไป เดี๋ยวจะไม่มีใครคบนะ...
คือไม่ใช่คนที่โดนกล่าวถึงหรอกครับ เห็นแต่ละคนที่ถูกพูดถึง ก็มาคุยดีๆทั้งนั้น แถมยังให้ข้อมูลเพิ่มอีก
สงสัยเค้าจะเป็นห่วงแทน ก็ไม่ว่ากันครับ อย่างน้อยทำเพราะเป็นห่วง
(พยายามมองโลกในแง่ดีไว้)
ก็ท้อไปพักนึงเหมือนกันครับ เลยหนีไปพันทิพย์ ใครเห็นแล้วชอบ ก็มาอ่านเอง
ไม่ต้องไปดัน ไปโฆษณา ไปขอร้องอ้อนวอนให้มาอ่านเหมือนที่นี่
ดูไปดูมาก็แอบสมเพชตัวเองเหมือนกันครับ กับบล็อกนี้
เหมือนของคุณภาพต่ำ ที่แบบต้องลดราคา ลดแลกแจกแถม พยายามมากมายให้มีคนอ่าน
แต่ยังมีคนไม่น้อย ที่มาคอยให้กำลังใจอยู่
ขอบคุณมากๆนะครับ
คิดไปคิดมา บล็อกนี้จัดให้เป็นบล็อกแห่งกำลังใจก็ดีนะ
เพราะรู้สึกว่า เมื่อไหร่ที่เราเจอกับปัญหาร้าย แล้วก็ไม่มีคนคอยห่วงใย คนเข้าใจ
โลกดูเหมือนมืดไปหมด
แต่เมื่อใดที่เรามีความสุข มีความรักที่อบอุ่น ทุกปัญหาก็ผ่านไปได้ไม่ยากเลยครับ
ขอบคุณมากๆนะครับ
คิดไปคิดมา บล็อกนี้จัดให้เป็นบล็อกแห่งกำลังใจก็ดีนะ
เพราะรู้สึกว่า เมื่อไหร่ที่เราเจอกับปัญหาร้าย แล้วก็ไม่มีคนคอยห่วงใย คนเข้าใจ
โลกดูเหมือนมืดไปหมด
แต่เมื่อใดที่เรามีความสุข มีความรักที่อบอุ่น ทุกปัญหาก็ผ่านไปได้ไม่ยากเลยครับ
ใครที่ชอบที่จะอ่าน และอยากติดตาม ก็ยินดีนะครับ
ไม่เก็บตังส์ ไม่ขอให้เลี้ยงข้าวอะไรทั้งสิ้น
มาลงชื่อให้กำลังใจกันบ้างก็ดีครับ
จะได้รู้ว่าสิ่งที่เราทำไป มันก็มีความหมายกับใครบางคนเหมือนกัน
ไม่เก็บตังส์ ไม่ขอให้เลี้ยงข้าวอะไรทั้งสิ้น
มาลงชื่อให้กำลังใจกันบ้างก็ดีครับ
จะได้รู้ว่าสิ่งที่เราทำไป มันก็มีความหมายกับใครบางคนเหมือนกัน
5 comments:
อะไรของแก...
คิดได้ก็ดีแล้วล่ะ ยิ่งดันบล็อกมาก ก็ยิ่งมีคนรำคาญ (เราไม่เคยอย่างแกหรอกนะ)
ปล่อยให้เป็นไปตามธรรมชาติดีกว่า
ใครอยากอ่าน ก็เข้ามา ใครไม่สนใจ ก็ออกไป
ขอเป็นกำลังใจให้นะ เราอยากอ่าน
เราจะอ่านต่อไปนะ จอม
โอ๋ๆ จอมอย่าเพิ่งถ้อนะ เขียนต่อๆ เดี๋ยวสอบเส็ด(พรุ่งนี้)จะมาอ่านไหม่ไห้หมดอีกรอบ :)
ยังมาอ่านอยู่เรื่อยๆนะ
เพิ่งเข้ามาอ่านเป็นครั้งเเรก
เขียนน่าสนใจเเล้วก็ตลกดีนะ ^^
ก็งี้ละ เขียนบล็อกก็อยากให้คนอ่านใช่มั๊ยล่ะ อ่านแล้วก็อยากให้เค้าเม้นด้วยใช่มั๊ยล่ะ เหอๆๆ เป็นธรรมดาของ Blogger
แต่อย่าให้พฤติกรรมของคนอื่นมาทำให้ตัวเราเองเป็นทุกข์หรือสูญเสียความเป็นตัวของตัวเองไปเลยนะ
เราก็มีเพื่อนคนนึงชอบปิดบล็อก เพราะเซ็ง..ไม่มีคนอ่าน = =;; (จริงๆแล้วไม่มีคนเม้นมากกว่า) ...ลองมองคนพวกนั้นดูเเล้วคิดว่าถ้าเจอเพื่อนทำแบบนั้น เราจะช่วยมันยังไง
งืม อยู่เมืองนอกนี่มันลำบากจริงๆ อะไรๆก็ไม่ค่อยจะสะดวกสบายเหมือนตอนอยู่เมืองไทย แต่ก็นะ มันอาจจะเป็นเพราะเป็นผู้ใหญ่ขึ้นด้วย ต้องพึ่งตัวเองมากขึ้น ระดับการใช้สมองคิดก็ต้องซับซ้อนขึ้น รวมไปถึงเรื่องราวมากมายและความรับผิดชอบที่มากกว่าตอนเป็นเด็กม.ปลายอีกเป็นไหนๆ
Post a Comment